โครงงาน เรื่อง วัยรุ่นไทยห่างไกลจากยาเสพติด


โครงงานคอมพิวเตอร์
เรื่อง วัยรุ่นไทยห่างไกลยาเสพติด
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
จัดทำโดย
1.นาย จิตรทิวัส  วัฒโน                      เลขที่ 1
2.นาย พีรภัทร  ราชสำเภา                  เลขที่ 4
3. นาย วรายุทร  อมรอุดมกุล             เลขที่  9
4. นางสาว เบญจมาศ  แก้ววิจารย์      เลขที่  12
5. นางสาวสุดารัตน์  ฆราวาศ             เลขที่ 13
6. นางสาว สุนีย์  จรเกตุ                      เลขที่ 14


ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
รายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนสามชัย
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขตที่24




เกี่ยวกับโครงงาน
โครงงานคอมพิวเตอร์
                          เรื่อง วัยรุ่นไทยห่างไกลจากยาเสพติด
                          กลุ่มสาระการเรียนรู้     การงานอาชีพและเทคโนโลยี
                              ผู้จัดทำ           1.นาย จิตรทิวัส  วัฒโน                      เลขที่ 1
     2.นาย พีรภัทร  ราชสำเภา                เลขที่ 4
       3. นาย วรายุทร  อมรอุดมกุล              เลขที่  9
      4. นางสาว เบญจมาศ แก้ววิจารย์       เลขที่ 12
       5. นางสาวสุดารัตน์ ฆราวาศ             เลขที่ 13
       6. นางสาว สุนีย์  จรเกตุ                   เลขที่ 14
                       ครูที่ปรึกษา      1.นาง ปิยนุช  ศรีสวัสดิ์
                                                ตำแหน่ง ครู        อันดับ คศ.1
                                               2.นางสาว จุฑาทิพย์  รมรัตน์
                                               ตำแหน่ง ครู     
  
                      สถานศึกษา      โรงเรียนสามชัย
                                               สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 24
                      ปีการศึกษา        2560



















กิตติกรรมประกาศ
โครงงาน วัยรุ่นไทยห่างไกลจากยาเสพติด สร้างขึ้นเพื่อศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดและผู้จัดทำได้สร้างเว็บไซด์ขึ้นเพื่อให้ผู้สนใจเข้ามาอ่านทำความเข้าใจเกี่ยวกับยาเสพติด โทษอันตรายของยาเสพติดและ
วิธีป้องกันหลีกเลี่ยงจากยาเสพติด
               ขอกราบขอบพระคุณ พ่อและแม่ที่ให้กำเนิดมา มีสติปัญญาที่สมบูรณ์ ต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรค์นานา
และคอยให้กำลังใจมาตลอด ที่ให้การสนับสนุนและให้โอกาสทางการศึกษา แก่ผู้เขียนตลอดมาถึงบัดนี้
              ท้ายสุดนี้คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงงานนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ของผู้สนใจต่อไป
                                                                                                                                คณะผู้จัดทำ                                                                                                           
                















บทคัดย่อ
                    การจัดทำโครงงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1.เพื่อให้รู้วิธีป้องกันและหลีกเลี่ยงให้ห่างไกลจากยาเสพติด  2. เพื่อส่งเสริมให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติด 3.เพื่อให้รู้โทษภัยและอันตรายจากยาเสพติด
 การพัฒนาเว็บไซต์ใช้โปรแกรม Microsoft Word 2010
                ผลการพัฒนาเว็บไซต์เพื่อการศึกษา เรื่อง วัยรุ่นไทยห่างไกลยาเสพติด ในเว็บไซต์ประกอบด้วย ข้อมูลของยาเสพติด โทษของยาเสพติด และ ลักษณะผู้ติดยาเสพติด ทำให้ได้เว็บบล็อกเรื่องวัยรุ่นไทยห่างไกลยาเสพติด เป็นสื่อทางการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตซึ่งทำให้เกิดประโยชน์กับบุคคลที่สนใจทั่วไป ส่งเสริมให้วัยรุ่นรู้จักวิธีป้องกันและโทษของยาเสพติดมากขึ้น
















สารบัญ
เรื่อง                                                                                                                                                   หน้าเกี่ยวกับโครงงาน                                                                                                                                 ก   กิตติกรรมประกาศ                                                                                                                               ข                                                                                                                                                         
 บทคัดย่อ                                                                                                                                             ค                                                                                                
บทที่ 1  บทนำ                                                                                                                                                              1
            - ที่มาและความสำคัญของโครงงาน                                                                                                     1
           - วัตถุประสงค์                                                                                                                                            1
           - ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า                                                                                                1                
บทที่ 2  เอกสารที่เกี่ยวข้อง                                                                                                                  2
บทที่ 3 วิธีการดำเนินโครงงาน                                                                                                                               3
            - วัสดุอุปกรณ์                                                                                                                                            4
            -วิธีการจัดทำโครงงาน                                                                                               9
บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน                                                                                                                   10
บทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะ                                                                                                                        13
           -สรุปผลการศึกษา                                                                                                                                       15
          -ประโยชน์ที่ได้จากโครงงาน                                                                                                                    16
         -ข้อเสนอแนะ                                                                                                                                             16
บรรณานุกรม                                                                                                                                                              17
ภาคผนวก                                                                                                                                                                   20
ข้อมูลผู้จัดทำ                                                                                                                                                             22








บทที่ 1
บทนำ
ที่มาและความสำคัญ
                ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญประการหนึ่งของประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำลายทรัพยากรและความมั่นคงของประเทศชาติและสังคมเป็นอย่างมาก ได้มีการดำเนินงานในทุกวิถีทางที่จะป้องกันและปราบปรามไม่ให้มีการเสพ การซื้อขาย และการผลิตยาเสพติด แต่เนื่องจากปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหม่ที่มีความยุ่งยากและสลับซับซ้อนต่อการดำเนินการ และไม่ได้มีแต่ประเทศไทยแห่งเดียวเท่านั้น ประเทศอื่นๆก็มีการเสพ การซื้อขาย และการผลิตยาเสพติดอยู่ตลอดเวลา
               ยาเสพติดจะเข้ามีอิทธิพลกับวัยรุ่นเป็นอย่างมากในช่วงเวลานี้ โดยบางครั้งอาจได้รับคำชักชวนจากเพื่อน ในช่วงวัยนี้บุคคลที่มีอิทธิพลต่อวัยรุ่นมากที่สุดก็คือเพื่อน เพราะปัญหาที่ไม่กล้าบอกเล่าหรือไม่ได้รับความสนใจจากผู้ปกครองรวมทั้งครูอาจารย์ คนที่ได้รับความไว้วางใจที่สุดก็คือเพื่อน และเพื่อนก็คือคนที่อยู่ในช่วงอายุใกล้เคียงกันเป็นส่วนใหญ่ ทำให้คำแนะนำที่ได้ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง บ่อยครั้งคำแนะนำที่ได้ก็คือการหลีกหนีปัญหาโดยการใช้ยาเสพติด โดยเริ่มจากบุหรี่ เหล้า และนำไปสู่ยาเสพติดชนิดต่างๆที่ร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นกลุ่มข้าพเจ้าคิดโครงงานนี้เพื่อศึกษาหาความรู้ เกี่ยวกับการติดสารเสพติดในปัจจุบันของวัยรุ่นในสังคมไทย และเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตนให้ปลอดภัย ห่างไกลยาเสพติด

วัตถุประสงค์ที่ศึกษา
        1.เพื่อให้รู้วิธีป้องกันและหลีกเลี่ยงให้ห่างไกลจากยาเสพติด
        2.  เพื่อส่งเสริมให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติด
        3.เพื่อให้รู้โทษภัยและอันตรายจากยาเสพติด

ขอบเขตการศึกษา
   - ศึกษาเรื่องยาเสพติด                                                           
  -ศึกษาเกี่ยวกับโทษของยาเสพติด




บทที่   2
เอกสารและโครงงานที่เกี่ยวข้อง

               ในการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์  กลุ่มของข้าพเจ้าได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดหรือสารที่ถูกนำมาใช้อย่างผิด ๆ หรือเสพติดมีใช้กันมานาน ตั้งแต่มนุษย์เริ่มค้นพบพืชซึ่งเมื่อเสพเข้าไปแล้วทำให้ ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลงไป
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
-โทษและอันตรายจากยาเสพติด
-ประเภทของยาเสพติด
-ประวัติยาเสพติด
-บัญญัติ 10 ประการยาเสพติด
โครงงานที่เกี่ยวข้อง
ประวัติยาเสพติด
 ในสมัยโบราณยาหรือสารเหล่านี้มักจะใช้ในพิธีทางศาสนา เช่น ผู้ทำพิธีทางศาสนา ของชาวอินเดียแดงในอเมริกากลาง ใช้ต้นไม้จำพวกกระบองเพชรซึ่งมีสารหลอนประสาท ทำให้เกิดอาการประสาทหลอนเห็นภาพต่าง ๆ และเข้าใจว่าตนสามารถติดต่อกับวิญญาณหรือเทพเจ้าได้ ชาวอินเดียนแดงเผ่าอินคา (Incas) ในอเมริกาใต้เคี้ยวใบโคคา (COCA) ซึ่งมีโคเคน โดยถือว่าเป็นของขวัญที่พระเจ้าประทานให้ แต่แรกใบโคคานี้ใช้เฉพาะในหมู่พวกกษัตริย์ของเผ่า แต่ต่อมาเมื่อประเทศสเปนเข้าครอบครองชนเหล่านี้ ใบโคคาก็ถูกนำมาใช้ในหมู่ชาวอินเดียนแดงทั่วไปเพื่อช่วยให้พวกเขามีกำลังทำงานหนักรับใช้ชาวสเปนได้ เมื่อวิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้าขึ้นยาหรือสารเสพติดก็เพิ่มปริมาณและชนิดขึ้น และมีการนำมาใช้อย่างผิด ๆ หรือเสพติดกันมาก ตัวอย่างเช่น ฝิ่น เป็นที่รู้จักและจำหน่ายมาตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาลโดยชาวเมโสโปเตเมีย (๕,๐๐๐ ปีก่อนคริสตศักราช) และแพร่หลายและรักษาโรคบางอย่าง เช่น โรคบิด โรคติดสุรา ฯลฯ ได้ นานทีเดียวกว่าอังกฤษจะรู้ฤทธิ์ในการเสพติดของฝิ่น และเมื่อนั้นฝิ่นก็ถูกนำไปใช้เพื่อการเสพติด
โดยอังกฤษพยายามนำเอาไปแพร่ ในเมืองจีนเพื่อให้ชาวจีนติดฝิ่น และตนเองผูกการค้าฝิ่นแต่ผู้เดียว จนกระทั่งเกิดสงคราม ฝิ่นกับประเทศจีน
กำลังเป็นปัญหามากในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่บนคาบสมุทรอินโดจีน ทั้งนี้เพราะเป็นสารซึ่งมีราคาแพงและผิดกฎหมาย ทั้งอำนาจในการเสพติดก็สูงและวิธีบางวิธียังอาจทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพจึงก่อให้เกิดปัญหาทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และการแพทย์ จนต้องจัดเป็นปัญหาเร่งด่วนของประเทศอย่างหนึ่งที่ต้องรีบแก้ไข
       ความหมายของยาเสพติดให้โทษ
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒ กำหนดความหมายของคำว่า ยาเสพติดให้โทษ ไว้ดังนี้ คือ สารเคมีหรือวัตถุชนิดใด ๆ ซึ่งเมื่อเสพเข้าสู่ร่างกายไม่ว่าจะโดยวิธี รับประทาน ดม สูบ หรือด้วยวิธีการใด ๆ แล้วทำให้เกิดผลต่อร่างกายและจิตใจในลักษณะสำคัญ เช่น
ผู้ที่เสพยา ต้องเพิ่มขนาดการเสพติดมากขึ้นเป็นลำดับ
ผู้ที่เสพยา จะเกิดอาการถอนยา เมื่อหยุดใช้ยา หรือขาดยา
ผู้ที่เสพยา จะเกิดความต้องการเสพทั้งทางร่างกายและจิตใจ อย่างรุนแรงตลอดเวลา
ผู้ที่เสพยา จะมีสุขภาพร่างกายที่ทรุดโทรมลง
หรือกล่าวได้ว่าเป็นยาหรือสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ที่ผู้นั้นใช้อยู่ประจำแล้วยาหรือสารนั้นทำให้มีความผิดปกติที่ระบบประสาทกลางซึ่งจะถือว่าผู้นั้นติดยากเสพติด ถ้ามีอาการต่อไปนี้ อย่างน้อย ๓ ประการหรือกล่าวได้ว่าเป็นยาหรือสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ที่ผู้นั้นใช้อยู่ประจำแล้วยาหรือสารนั้นทำให้มีความผิดปกติที่ระบบประสาทกลางซึ่งจะถือว่าผู้นั้นติดยากเสพติด ถ้ามีอาการต่อไปนี้ อย่างน้อย ๓ ประการคือ ผู้ป่วยจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ยาหรือสารนั้นมาไว้ แม้เป็นวิธีที่ผิดกฎหมาย เช่นลักขโมยก็จะทำ
ผู้ป่วยไม่สามารถปฏิบัติงานตามปกติได้เนื่องจากมีอาการพิษหรืออาการขาดยาหรือสารนั้น
พฤติกรรมของผู้ป่วยเปลี่ยนไป เช่น หยุดงานบ่อย หรือไม่เอาใจใส่ครอบครัว
ผู้ป่วยต้องเสพยาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ (มี Tolerance)
เมื่อหยุดเสพหรือลดปริมาณการเสพลงมา จะเกิดอาการขาดยาหรือสารนั้น (Winthdrawal Symptom)


ประเภทของยาเสพติด
ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 แบ่งยาเสพติดให้โทษออกเป็น 5ประเภทดังนี้ คือ
- ประเภทที่ 1 ได้แก่ เฮโรอีน อีทอร์ฟีนอะซีทอร์ฟีน ฯลฯ (จัดเป็นยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรง)
-ประเภทที่ 2 ได้แก่ ฝิ่น มอร์ฟีน โคเดอีน ไดฟีน๊อคซีเลท เอธิลมอร์ฟีน ฯลฯ (จัดเป็นยาเสพติดให้โทษทั่วไป) - ประเภทที่ 3 ได้แก่ ยาแก้ไอ แอแก้ท้องเสีย ที่มีฝิ่น โคเดอีน หรือไดฟีน๊อคซีเลทเป็นส่วนผสม ฯลฯ (จัดเป็นยาเสพติดให้โทษชนิดเป็นตำรับยา ที่มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 ปรุงผสมอยู่ด้วย) - ประเภทที่ 4 ได้แก่
อะเซติคแอนไฮไดรด์ อะเซติลคลอไรด์ (จัดเป็นสารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือประเภท 2 - ประเภทที่ 5ได้แก่ พืชกัญชา พืชกระท่อม เห็ดขี้ควาย (จัดเป็นยาเสพติดให้โทษที่มิได้เข้าข่ายอยู่ในประเภท 1 ถึงประเภท 4)  ตามวิถีการออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ ออกฤทธิ์กดประสาท (Depressants)  พวกนี้จะออกฤทธิ์กดประสาทสมองศูนย์ควบคุมการหายใจในสมอง และประสาทที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะบางอย่างของร่างกาย ยาพวกนี้ได้แก่ ฝิ่น มอร์ฟีน เฮโรอีน และเซโคบาร์บิทาล (Secobarbital) ซึ่งเรียกกันในหมู่ใช้ว่า "ปีศาลแดง" หรือ "เหล้าแห้ง" ไดอะซีแพม ทินเนอร์ กาว ฯลฯ
ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท (Stimulants) จะออกฤทธิ์กระตุ้นประสาทสมองส่วนกลางโดยตรง กระตุ้นการเต้นของหัวใจ และอารมณ์ด้วย เช่น แอมเฟตามีน (Amphetamine) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "ยาม้า" หรือ "ยาขยัน" อีเฟดรีน โคเคน ฯลฯ
ออกฤทธิ์หลอนประสาท (Hallucinogen) จะออกฤทธิ์ต่อประสาทสมอง ทำให้มีการรับรู้ความรู้สึก (Perception) ผิดไป เกิดอาการประสาทหลอน หรือแปลสิ่งเร้าผิด (illusion) ได้แก่ แอลเอสดี (Lysergicacid dietyhlamide) แกสโซลีน (Gasoline) เปลือกกล้วย ยางมะละกอ และ แฟนไซคลิดีน (Phencylidine) ดีเอ็มที เห็ดขี้ควาย ฯลฯ
ออกฤทธิ์ผสมผสานกัน คือ ออกฤทธิ์ทั้งกดประสาท กระตุ้นประสาท และหลอนประสาท ได้แก่ กัญชา ใบกระท่อม เมื่อใช้น้อย ๆ จะกระตุ้นประสาท หากใช้มากขึ้นจะกดประสาทและถ้าใช้มากขึ้นอีกก็จะเกิดประสาทหลอนได้องค์การอนามัยโลก (WHO) แบ่งยาหรือสารเสพติด ออกเป็น
- ประเภทฝิ่น หรือมอร์ฟีน รวมทั้งยาที่มีฤทธิ์คล้ายมอร์ฟีน เช่น ฝิ่น มอร์ฟีน เฮโรอีน เพทธีดีน - ประเภทบาร์บิตูเรต รวมทั้งยาที่มีฤทธิ์ทำนองเดียวกัน เช่น เซโคบาร์บิตาล อะโมบาร์บิตาล พาราลดีโฮด์ เมโปรมาเมต ไดอะซีแพม คลอดไดอะซีป๊อกไซด์ - ประเภทแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ วิสกี้ - ประเภทแอมเฟตามีน เช่น แอมเฟตามีน (ยาม้า) เดซ์แอมเฟตามีน - ประเภทโคเคน เช่น โคเคน ใบโคคา - ประเภทกัญชา เช่น ยอดช่อดอกกัญชาตัวเมีย - ประเภทคัด (KHAT) เช่น ใบคัด ใบกระท่อม - ประเภทหลอนประสาท เช่น แอลเอสดี ดีเอ็มที เมสคาลีน เมล็ดมอร์นิ่งโกลลี่ ลำโพง เห็นเมาบางชนิด - ประเภทอื่น ๆ เป็นพวกที่ไม่สามารถจัดเข้าประเภทได้ เช่น ทินเนอร์ เบนซีน น้ำยาล้างเล็บ ยาแก้ปวด บุหรี่นอกจากนั้นทางกฎหมาย ยังได้กำหนด "วัตถุออกฤทธิ์" ซึ่งตาม พ.ร.บ. วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อที่เป็นวัตถุสังเคราะห์ ทั้งนี้ตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ได้แบ่งวัตถุออกฤทธิ์ ออกเป็น ๔ ประเภท  

ประเภทของยาเสพติด
ประเภทที่ ๑ เช่น อีอีที (DET) แอลเอสดี (LSD) ๓-๔ เมทิลลินไดออกซิเมท แอมเฟตามีน (๓,๔ - methylenedioxymethamphtamine, MDMA
ประเภทที่ ๒ เช่น แอมเฟตามีน (Amphetamine) เซโคบาร์บิตาล (Secobarbital) เลโวเมทแอมเฟตามีน (Levomethamphetamine)
ประเภทที่ ๓ เช่น อะโมบาร์บิตาล (Amobarbital) ไซโคลบาร์บิตาล (Cyclobarbital) คาทิน (Cathine) ประเภทที่ ๔ เช่น แอมฟรีพราโมน (Amfepramone) บาร์บิตาล (Barbital) โพโรวาเลโรน (Pyroalerone)
     ยาเสพติดชนิดต่าง ๆ ที่แพร่ระบาดในสังคมไทย
มอร์ฟีน (MORPHINE)
เฮโรอีน (HEROIN)
โคเคน (COCAINE)
กัญชา (CANNABIS)
กระท่อม (KRATOM)
เห็ดขี้ควาย (PSILOCYBE CUBENSIS MUSHROOM)
แอมเฟตามีน (AMPHETAMINE)
อีเฟดรีน (EPHEDINE)
แอลเอสดี (LSD)
บาร์บิทูเรต (BARBITIRATE)
สารระเหย (VOLATILE SOLVENT)
สุรา (Alcohol)
บุหรี่
บัญญัติ 10 ประการ ยาเสพติด
1. ยาเสพติดให้โทษ คือ  ยาเสพติดให้โทษตามความหมายของ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษพ.ศ.2552 หมายถึง สารเคมีหรือวัตถุชนิดใดๆซึ่งเมื่อเสพเข้าสู่ร่างกายไม่ว่าจะโดยรับประทาน ดม สูบ ฉีด หรือด้วยประการใดๆ แล้วทำให้เกิดผลต่อร่างกายและจิตใจในลักษณะสำคัญ เช่น ต้องเพิ่มขนาดการเสพเรื่อยๆมีอาการถอนยาเมื่อขาดยา มีความต้องการเสพทั้งร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรงอยู่ตลอดเวลา และสุขภาพโดยทั่วไปจะทรุดโทรมลงจนถึงขั้นเสียชีวิต
2. อันตรายจากการใช้ยาเสพติด
          การใช้ยาเสพติดมีอันตรายต่อสุขภาพ ดังต่อไปนี้
             1. ทำลายสุขภาพให้ทรุดโทรม น้ำหนักลด ผิวคล้ำ ร่างกายซูบผอม
             2. เป็นบุคคลไร้สมรรถภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ อารมณ์ไม่ปกติ เฉี่อยชาเกียจคร้าน
             3. เสียบุคลิกภาพ ขาดความสนใจในตัวเองมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
             4. อาจประสบอุบัติเหตุได้ง่ายเพราะการควบคุมทางกล้ามเนื้อและระบบประสาทบกพร่อง
             5. เกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่ายเพราะความต้านทานโรคน้อย ติดเชื้อง่าย
3. จะสังเกตอาการผู้ติดยาเสพติดได้อย่างไร
           ยาเสพติดเมื่อเกิดการเสพติดแล้ว จะมีผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจซึ่งทำให้ลักษณะและความประพฤติของผู้เสพเปลี่ยนไปจากเดิมที่อาจสังเกตพบได้คือ
           1. ร่างกายทรุดโทรม ซูบผอม
           2. อารมณ์ฉุนเฉียว หรือเงียบขรึมผิดปกติจึงมักพบผู้เสพติดชอบทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายผู้อื่นหรือในทางกลับกันบางคนอาจชอบแยกตัวอยู่คนเดียวและหนีออกจากพรรคพวกเพื่อนฝูง
           3. ถ้าผู้เสพเป็นนักเรียน มักพบว่าผลการเรียนแย่ลงถ้าเป็นคนทำงาน มักพบว่าประสิทธิภาพในการทำงานลดลงหรือไม่ยอมทำงานเลย
           4. ใส่เสื้อแขนยาวตลอดเวลา เพื่อปกปิดรอยเข็มที่ฉีดยาตรงท้องแขนด้านในหรือรอยกรีดต้นแขนด้านใน
            5. ติดต่อกับเพื่อนแปลกๆ ใหม่ๆซึ่งมีพฤติกรรมผิดปกติ
           6. ขอเงินจากผู้ปกครองเพิ่ม หรือยืมเงินจากเพื่อนฝูงเสมอเพื่อนำไปซื้อยาเสพติด
          7. ขโมย ฉกชิง วิ่งราว เพื่อหาเงินไปซื้อยาเสพติด
          8. ผู้ติดยาเสพติดบางชนิด เช่น เฮโรอีน จะมีอาการอยากยาบางคนจะมีอาการรุนแรงถึงขั้นลงแดง
4. จะสังเกตอาการคนเมายาบ้าได้อย่างไร
         ผู้ที่เสพยาบ้าเป็นประจำ จะส่งผลให้ผู้เสพมีระบบประสาทผิดปกติเมื่อถึงจุดหนึ่งจะเกิดอาการหูแว่ว ประสาทหลอน หวาดระแวง จนเกิดความเครียดคิดว่าจะมีคนมาฆ่า หรือทำร้าย บางรายกลัวมากต้องหาอาวุธไว้ป้องกันตัวหรือคลุ้มคลั่งจับตัวประกัน ซึ่งอาจสังเกตอาการของคนเมายาบ้า ได้ดังนี้
          1. อยู่ไม่สุข ลุกลี้ลุกลน กระสับกระส่าย
          2. หวาดกลัว และระแวงอยู่ตลอดเวลา
          3. สีหน้าเลื่อนลอยเหมือนคนไม่ได้นอนหลับพักผ่อน
          4. เนื้อตัวสกปรก มอมแมม
5.ถ้าบุตรหลานหรือบุคคลในครอบครัวของท่านติดยาเสพติดควรทำอย่างไร
          โดยหลักการตาม พ.ร.บ.ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.2545 แล้วผู้เสพยาเสพติดมีสภาพเป็นผู้ป่วยอย่างหนึ่งมิใช่อาชญากรปกติการฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ติดยาเสพติดจึงสมควรกระทำให้กว้างขวาง
          ถ้าบุตรหลานหรือบุคคลในครอบครัวของท่านติดยาเสพติดท่านสามารถช่วยเหลือบุคคลเหล่านั้นได้ก่อนถูกจับกุมดำเนินคดีโดยขอรับคำปรึกษาจากสถานที่ให้คำปรึกษา และบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดได้แก่โรงพยาบาลของรัฐ เช่น รพ.ธัญญารักษ์, รพ.พระมงกุฎเกล้า, รพ.ตำรวจ, รพ.จุฬาลงกรณ์,รพ.ราชวิถี, รพ.ตากสิน, รพ.ทหารผ่านศึก , รพ.นพรัตน์ราชธานี เป็นต้นโรงพยาบาลประจำจังหวัดทุกจังหวัด และศูนย์บำบัดรักษายาเสพติดต่างๆ ฯลฯ
6.หากผู้ปกครองปล่อยปละละเลยให้บุตรหลานเสพยาเสพติดให้โทษผู้ปกครองมีความผิดหรือไม่
          ผู้ปกครองมีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดู อบรมสั่งสอนดูแลเอาใจใส่เด็กในความปกครองให้ประพฤติตนให้เหมาะสมหากผู้ปกครองรายใดไม่ดูแลเอาใจใส่ เป็นเหตุให้เด็กประพฤติ ตนไม่สมควรมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำความผิด เช่น เสพยาเสพติดให้โทษ เป็นต้นผู้ปกครองอาจจะมีความผิดถึงรับโทษจำคุกไม่เกิน 3เดือน หรือปรับไม่เกิน สามหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 4,26,78 ประกอบกฎกระทรวงกำหนดเด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด พ.ศ.2549 ลงวันที่ 8 ส.ค.49
         ผู้ปกครองจึงไม่ควรสนับสนุนหรือยินยอมให้บุตรหลานของท่านเที่ยวเตร่ในสถานที่ที่ไม่เหมาะสมเช่น สถานบริการกลางคืน สถานที่เสี่ยงภัยต่างๆ
7.ท่านหรือบุตรหลานของท่านไม่ยินยอมให้ตรวจปัสสาวะได้หรือไม่และมีโทษหรือไม่ อย่างไร
         บุคคลใดมีพฤติการณ์น่าสงสัยว่าเสพยาเสพติดเจ้าพนักงานมีอำนาจตรวจหรือทดสอบหรือสั่งให้บุคคลใดรับการตรวจหรือทดสอบหาสารเสพติดจากปัสสาวะได้ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2519 มาตรา 14 ทวิประกอบประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ลง 11ก.ค.43 เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขการตรวจหรือทดสอบว่าบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดมีสารเสพติดอยู่ในร่างกายหรือไม่
         บุคคลใดไม่ยินยอมให้ตรวจหรือทดสอบหาสารเสพติดจากปัสสาวะต้องรับโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด พ.ศ.2519 มาตรา 16
         ดังนั้นจึงควรระมัดระวังมิให้บุตรหลานของท่านเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดตามสถานบริการต่างๆโดยเด็ดขาด
8. สถานประกอบการประเภทใดที่อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด และต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างไร
         มีสถานประกอบการ 6 ประเภทที่อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดพ.ศ.2519 มาตรา 13 ทวิ ประกอบ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี (พ.ศ.2543) ณ วันที่ 16 ส.ค.2543 เรื่องกำหนดประเภทสถานประกอบการที่อยู่ภายใต้บังคับของมาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการ       



 การกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการ
       1. ปั๊มน้ำมัน
        2. ปั๊มก๊าซ
        3. สถานบริการต่างๆ
        4. ที่พักอาศัยในเชิงพาณิชย์ประเภท หอพัก อาคารชุด หรือเกสเฮ้าส์ ที่ให้ผู้อื่นเช่า
        5. โต๊ะบิลเลียตหรือสนุกเกอร์ ที่เก็บค่าบริการจากผู้เล่น
        6. โรงงาน
      
 เจ้าของสถานประกอบการทั้ง 6 ประเภท มีหน้าที่ควบคุม สอดส่อง ดูแลไม่ให้พนักงานหรือบุคคลภายนอกมามั่วสุมกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในหรือบริเวณสถานประกอบการ และต้องจัดให้มีป้ายหรือประกาศเตือนเกี่ยวกับพิษภัยของยาเสพติดหรืออัตราโทษตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราม ยาเสพติดพ.ศ.2519 มาตรา 13 ทวิ ประกอบประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2543 ณ วันที่ 16 ส.ค.43 เรื่องกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการ
        หากปล่อยปละละเลยหรือละเว้นไม่ติดป้ายหรือประกาศเตือนดังกล่าว อาจถูกปรับเป็นเงินหนึ่งหมื่นบาทหรือสามหมื่นบาท หรือห้าหมื่นบาท แล้วแต่กรณี ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบรามยาเสพติดพ.ศ.2519 มาตรา 13 ตรีประกอบระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดว่าด้วยการตักเตือนการเปรียบเทียบปรับ และการปิดชั่วคราวสถานประกอบการหรือการพักใช้ใบอนุญาตประกอบการพ.ศ.2545 ณ วันที่ 12 ธ.ค.45 ข้อ 17

9. หากพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการเจ้าของสถานประกอบการมีความรับผิดตามกฎหมายยาเสพติดหรือไม่ อย่างไร
        ถ้ามีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการทั้ง 6 ประเภท โดยเจ้าของสถานประกอบการไม่สามารถชี้แจงหรือพิสูจน์การใช้ความระมัดระวังได้สถานประกอบการนั้นอาจถูกสั่งปิดชั่วคราวหรือพักใช้ใบอนุญาต มีกำหนด 7 วันตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2519มาตรา 13 ตรีประกอบระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดว่าด้วยการตักเตือนการเปรียบเทียบปรับและการปิดชั่วคราวสถานประกอบการหรือการพักใช้ใบอนุญาต ประกอบการ พ.ศ.2545 ณ วันที่ 12 ธ.ค.45 ข้อ 18
10. ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างไร
        ถ้าพบแหล่งจำหน่าย พักยา มั่วสุม หรือเสพยาเสพติดหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดท่านมีส่วนช่วยเหลือสังคมในการป้องกันและปราบปรามได้โดยแจ้งให้หน่วยราชการต่อไปนี้ทราบ












บทที่ 3
วิธีการดำเนินโครงงาน
วัสดุอุปกรณ์
            3.1.1  โปรแกรม Microsoft Word 2010
           3.1.2   เว็บไซต์ที่ให้บริการคือ http://www.blogger.com/ 
           3.1.3  เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารคือ www.facebook.com  , www.gmail.com ,
                     www.google.com   
  
วิธีการจัดทำโครงงาน
สร้างเว็บบล็อก  (Blogger)
1.             เข้าไปที่ blogger จะเจอหน้าจอแบบนี้ ให้คลิกที่




2.เมื่อเราเข้าไปที่ blogger ที่ได้ทำการล็อกอินบัญชีของ Gmail แล้ว หน้าแรกของ blogger จะมีหน้าตาดังภาพ
ให้คลิกไปที่เมนู บล็อกใหม่เพื่อทำการสร้างบล็อก
กล่องข้อความ: บล็อกของ สุดารัตน์ ฆราวาส


3.เมื่อเราคลิกไปที่เมนูเพื่อสร้างบล็อกใหม่แล้ว ให้ทำการกรอกรายละเอียดดังนี้ คือ ตรงหัวข้อ ให้พิมพ์ชื่อบล็อก ตรงที่อยู่ ให้ตั้งชื่อ URL ซึ่งควรใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษและตัวเลข และต้องดูตรงสถานะของบล็อกด้วยว่าชื่อ URL ที่ตั้งไปนั้นมีผู้ใช้แล้วหรือยังไม่มีผู้ใช้ มันจะแจ้งว่า ที่อยู่บล็อกนี้สามารถใช้ได้เสร็จแล้วให้ทำการเลือกรูปแบบ จากแม่แบบว่าจะให้บล็อกมีหน้าตาในการแสดงเช่นไร เมื่อเลือกแล้วก็ คลิกเมนูสร้างบล็อก








4.เข้ามาคลิกตรง บทความจะขึ้นว่าสร้างโพสต์ใหม่ เขียนชื่อ เรื่องของตัวเองใส่เนื้อหา และเผยแพร่












บทที่ 4
ผลการดำเนินงาน
ขั้นตอนที่  1  การวางแผน          
จากการประชุมกลุ่มเพื่อค้นหาเรื่องที่ต้องการศึกษาเรื่องที่ต้องการเรียนรู้  ที่เกี่ยวข้องต่อสุขภาพนั้น สมาชิกในกลุ่มร่วมกันวางแผนเพื่อจะศึกษาค้นคว้าเรื่องเกี่ยวกับปัญหาที่สังคมพบกันบ่อยมากก็คือ  การติดสารเสพติดของวัยรุ่นในสังคมไทย   กลุ่มข้าพเจ้าจึงเลือกที่จะศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายจิตใจของวัยรุ่นชายหญิง   เพื่อที่จะทำความเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายจิตใจของวัยรุ่นให้มากที่สุด  และศึกษาเกี่ยวกับสาเหตุของการติดยาเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่จะกระทำเพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นจากการศึกษาแนวทางการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันการติดสารเสพติด และผลปรากฏว่าข้อมูลที่สมาชิกในกลุ่มศึกษามานั้นเป็นวัยรุ่นชายเป็นส่วนใหญ่   เป็นต้น

ขั้นตอนที่  2  เก็บรวบรวมข้อมูล
จากการที่แบ่งหน้าที่เป็นหัวข้อกลุ่มข้าพเจ้าได้หาข้อมูลเกี่ยวกับโครงงานที่ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติและรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาจัดทำโครงงาน 

ขั้นตอนที่  3  สรุปผลความรู้และสร้างความรู้
กลุ่มข้าพเจ้าได้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดซึ่งยาเสพติดนี้สร้างปัญหามากมายในสังคมไทยทำให้สังคมไทยเสื่อมลงมากกลุ่มข้าพเจ้าเลยอยากนำความรู้ที่ได้มาช่วยคนในสังคมไทยโดยการทำสิ่งต่างๆมาเตือนให้รู้จักโทษของยาเสพติดซึ่งยาเสพติดได้สร้างปัญหามากมาย    เช่นการทำให้เกิดลักขโมย    และยังไม่พอยังเกิดการฆ่าชิงทรัพย์  เป็นต้น

ขั้นตอนที่   4   ขั้นนำเสนอความรู้และประเมินผลความรู้
แจกเอกสารเผยแพร่ความรู้แก่เพื่อนๆในในชั้นเรียน และสร้างแบบทดสอบวัดความรู้เกี่ยวกับปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากสารเสพติด   และแนวทางการป้องกันตัวให้ห่างไกลยาเสพติด






บทที่ 5
สรุปผลและข้อเสนอแนะ
สรุปผลการศึกษา
จากการจัดทำโครงงานพบว่า สามารถสรุปผลการดำเนินโครงงาน และข้อเสนอแนะ ดังนี้
 วัตถุประสงค์ของโครงงาน
        1.เพื่อให้รู้วิธีป้องกันและหลีกเลี่ยงให้ห่างไกลจากยาเสพติด
        2.  เพื่อส่งเสริมให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติด
        3.เพื่อให้รู้โทษภัยและอันตรายจากยาเสพติด
  ข้อเสนอแนะ
ควรมีการจัดทำเว็บเกี่ยวกับการรณรงค์ยาเสพติดกับวัยรุ่นมากยิ่งขึ้น
 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางในการพัฒนา
        1.  เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่เพียงพอกับการทำโครงงาน และบางครั้งอินเทอร์เน็ตมีปัญหา
        2.  สมาชิกในกลุ่มบางคนให้ความร่วมมือน้อยเพราะไม่ค่อยใส่ใจกับโครงงานนักจึงทำให้เสียเวลาและทำให้โครงงานเสร็จช้า
        3.ข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติดของแต่ละเว็บมีอย่างหลากหลาย ควรมีการวิเคราะห์ส่วนที่เป็นเนื้อหาที่สำคัญจริงๆ










บรรณานุกรม
______ . บัญญัติ 10 ประการยาเสพติด New
                 แหล่งที่มา : https://image.slidesharecdn.com/random-150226040746-conversion-              gate02/95/-28-638.jpg?cb=1424945319
______ . สภ. อรัญประเทศ สระแก้ว (พ.ศ.2557) โทษและพิษภัยของยาเสพติด ตอนที่ 1
               แหล่งที่มา : www.youtube.com/watch?v=xbbzgm7pUDk
______ .พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (พ.ศ.2550) สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ / เล่มที่ ๙ / เรื่องที่ ๑๓ ยาเสพติดให้             โทษและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท / สาเหตุของปัญหายาเสพติด  
               แหล่งที่มา
:
http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php


























ภาคผนวก










ภาพที่ 1 ออกสำรวจพฤติกรรมการใช้สารเสพติดของนักเรียนชายโรงเรียนสามชัย


ภาพที่ 2 ออกสำรวจพฤติกรรมการใช้สารเสพติดของนักเรียนชายโรงเรียนสามชัย



ภาพที่ 3 ออกสำรวจพฤติกรรมการใช้สารเสพติดของนักเรียนหญิงโรงเรียนสามชัย


ภาพที่ 4 ออกสำรวจพฤติกรรมการใช้สารเสพติดของนักเรียนหญิงโรงเรียนสามชัย




ภาพที่ 5 ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ต


ภาพที่ 6 เรียบเรียงข้อมูลและสร้าง Blogger เพื่อนำไปเผยแพร่

ข้อมูลผู้จัดทำ




                                ชื่อ นาย จิตรทิวัส  นามสกุล วัฒโน
                                         อายุ 15  ปี
                                         ที่อยู่ 136 หมู่ 8 บ้านหนองกุงกลาง ตำบลสำราญ อำเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์
                                         เบอร์โทรศัพท์ 062-195-9313



                                         ชื่อ นาย พีรภัทร  นามสกุล ราชสำเภา
                                         อายุ 15  ปี
                                         ที่อยู่ 75 หมู่ 3 บ้านคำแคน ตำบลคำสร้างเที่ยง อำเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์
                                         เบอร์โทรศัพท์ 065-570-5393

                                         ชื่อ นาย วรายุทร  นามสกุล อมรอุดมกุล
                                          อายุ 15 ปี
                                          ที่อยู่  85  หมู่ 7 บ้านท่าสะอาด ตำบลคำสร้างเที่ยง อำเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์
                                          เบอร์โทรศัพท์ 098-205-6377

                                       



                                         ชื่อ นางสาว เบญจมาศ นามสกุล  แก้ววิจารย์      
                                         อายุ 15 ปี
                                         ที่อยู่ 210 หมู่ 8 บ้านหนองกุงกลาง ตำบลสำราญ อำเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์
                                         เบอร์โทรศัพท์ 093-464-1470



                                          ชื่อ นางสาว สุดารัตน์ นามสกุล ฆราวาส
                                          อายุ 15 ปี
                                          ที่อยู่ 109 หมู่ 1 บ้านค้อ ตำบลหนองช้าง อำเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์
                                           เบอร์โทรศัพท์ 062-037-5203

                                         ชื่อ  นางสาว สุนีย์  นามสกุล จรเกตุ
                                          อายุ 15 ปี
                                         ที่อยู่ 32 หมู่ 5 บ้านกุดแห่ ตำบลสำราญใต้ อำเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์
                                         เบอร์โทรศัพท์ 095-440-8419






ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เรือพลังงานนิวเคลียร์